Sridonchai webboard

วันนี้ผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
เลขานุการของ คุณสิรณัฐ ภิรมย์ภักดี
ขอทำตามแบบอย่าง
ของ คุณสิรณัฐ ภิรมย์ภักดี
ประกาศยอมรับความผิดในสิ่งที่ผ่านมา
ผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ยอมรับ
ว่าใช้สารเสพติดมาตั้งแต่วัยเด็ก
และโยนความผิดและประวัติการรักษา
ไปให้กับ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
และช่วงต้นปี2549
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก แจ้งตำรวจ
จับผมข้อหาค้ายาเสพติด ผมติดคุก
อยู่9เดือน ใจผมจึงแค้นเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่นั้นมาผมลงก็โพสต์ข้อความโจมตี
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก และ ครอบครัว
ของเขามาโดยตลอด ยอมรับครับ
ว่าข้อมูลส่วนใหญ่ที่ผมโพสต์นั้น
ก็ไม่เป็นความจริง วันนี้ผมคิดได้เพราะได้คุย
กับ คุณสิรณัฐ ภิรมย์ภักดี เขาสอนผม
ว่าชีวิตจะมีความสุขได้ ต่อเมื่อความทุกข์
หมดไปจากใจ ผมจึงตัดสินใจสารภาพ
ความจริงวันนี้ นอกจากโพสต์เน็ตแล้ว
ผมยังคัดข้อมูลของนายพร้อมพล
จากเจ้าหน้าที่ของ สนง.เขตบึงกุ่ม
มาเผยในสื่อต่างๆ แต่มันไม่ได้ทำให้ผม
มีความสุขเลย ผมตั้งใจแล้วว่าต่อจากนี้
จะเผยความจริงทุกอย่างที่ผมได้ทำไว้
ตามแบบอย่างของ คุณสิรณัฐ ภิรมย์ภักดี
ขอบคุณ คุณสิรณัฐ ภิรมย์ภักดี ที่ช่วยคุย
กับพ่อและแม่ผม ให้ยอมรับความจริง
ว่าคนผิดคือผม คนป่วยคือผม
และรู้จักปล่อยวาง ตอนนี้ผมโล่งมากๆ
เรื่องที่ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
แจ้งความไว้ทุกโรงพัก ผมจะรับสารภาพ

ผม นายเชิดชัย เริ่มฤกษ์
เป็นพ่อของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
ขอแจ้งข้อความถึงผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่
ในเขตบึงกุ่ม ในสมัยที่เต็งเคยไปรับยาบ้า
มาขาย แล้วถูกตำรวจ สน.โคกคราม
จับกุมดำเนินคดี ด้วยการแจ้งเบาะแส
ของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
(อปพร.เขตบึงกุ่ม) ในสมัยนั้น
ตอนนี้มันเปลี่ยนชื่อเป็น นายเจตน์ ธารารัตนชัย

อันนี้คือบัตรประชาชนที่ใช้แจ้งเหตุ
จับกุม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ในปี2549

สังเกตดูจะเห็นว่าเลขบัตรประชาชนเดียวกัน
เพราะฉะนั้นหากท่านผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่
จะแค้น ก็ขอให้ไปลงกับ
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายเจตน์ ธารารัตนชัย คนนี้เลย
ไม่ใช่ลงกับ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
ลูกชายของผม เพราะลูกชายผมไม่เคย
ซัดทอดว่าไปรับยาบ้าที่ไหน
และ รับมาจากใคร ในสำนวนคดี
ที่เต็งโดนจับในปี2549 และ หลังจากนั้น
อีก2ครั้ง ในพื้นที่ สน.โคกคราม
เต็งยอมรับความผิดเพียงผู้เดียวไม่เคย
ซัดทอดถึงผู้ใด เต็งให้ปากคำว่า
เป็นเรื่องส่วนตัว ผมเองก็เคยถามเต็ง
ตอนที่ไปเยี่ยมที่เรือนจำ เต็งก็พูดเหมือนกัน
ว่า เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้นแม้แต่
ตัวผมเองก็ยังไม่ทราบเลยว่าเต็ง
ไปรับยาเสพติด มาจากที่ใด และ รับจากใคร
เพราะฉะนั้นขอให้เลิกสงสัยในตัวเต็ง
ผมมีข่าวดีอยากแจ้งให้ทุกคนได้ทราบ
โดยเฉพาะ นางชนิสา ชัยบุญญานนท์
ผู้ซึ่งเป็นพยานเอาผิดภรรยาของผม
ผมอยากบอกว่าตอนนี้เต็งลูกชายของผม
เป็นผู้ชายเต็มร้อยแล้ว ผมดีใจที่สุด
ในชีวิตของคนเป็นพ่อ เมื่อได้ยินเต็งโทรมา
หาผมเมื่อเช้านี้ บอกผมว่า
พ่อครับ หนึ่งตัดสินใจแล้ว
หนึ่งต้องการจะเป็นผู้ชาย หนึ่งจะดูแลเมีย
และมีหลานให้พ่อกับแม่นะครับ
ผมได้ยินคำพูดของเต็งแค่นี้น้ำตา
ของคนเป็นพ่ออย่างผมก็ไหลออกมาทันที
เพราะสิ่งที่ผมสอนลูกมาตั้งแต่อายุ11ปี
คือ เป็นผู้ชาย ต้องหรั่งน้ำเชื้อ
ผมจึงอยากให้ นางชนิสา ชัยบุญญานนท์
และ นายเจตน์ ธารารัตนชัย ได้ดูคลิปวีดีโอนี้
https://youtu.be/-x00MU6ioYQ?si=fbsFzY_MmAZa9nvz
จะได้รู้ว่าหน้าที่สำคัญของคนเป็นพ่อและแม่
คือการเลี้ยงลูกให้เป็นบุคคลตรงเพศ
สืบทอดเผ่าพันธุ์ ให้สมกับการเป็นมนุษย์
ส่วนคดีของ นางรุ่งทิวา เริ่มฤกษ์(ภรรยา)
ที่ สน.โคกคราม ภรรยาของผมได้เข้าพบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ให้ปากคำ
ยืนยันไปแล้วว่าข้อความในโพสต์
ทุกตัวอักษร เป็นเรื่องจริง ตอนนี้กำลัง
หาหลักฐานมาประกอบตำคำแนะนำ
ของพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดี

ผม นายเชิดชัย เริ่มฤกษ์
เป็นพ่อของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
ขอแจ้งข้อความถึงผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่
ในเขตบึงกุ่ม ในสมัยที่เต็งเคยไปรับยาบ้า
มาขาย แล้วถูกตำรวจ สน.โคกคราม
จับกุมดำเนินคดี ด้วยการแจ้งเบาะแส
ของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
(อปพร.เขตบึงกุ่ม) ในสมัยนั้น
ตอนนี้มันเปลี่ยนชื่อเป็น นายเจตน์ ธารารัตนชัย

อันนี้คือบัตรประชาชนที่ใช้แจ้งเหตุ
จับกุม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ในปี2549

สังเกตดูจะเห็นว่าเลขบัตรประชาชนเดียวกัน
เพราะฉะนั้นหากท่านผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่
จะแค้น ก็ขอให้ไปลงกับ
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายเจตน์ ธารารัตนชัย คนนี้เลย
ไม่ใช่ลงกับ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
ลูกชายของผม เพราะลูกชายผมไม่เคย
ซัดทอดว่าไปรับยาบ้าที่ไหน
และ รับมาจากใคร ในสำนวนคดี
ที่เต็งโดนจับในปี2549 และ หลังจากนั้น
อีก2ครั้ง ในพื้นที่ สน.โคกคราม
เต็งยอมรับความผิดเพียงผู้เดียวไม่เคย
ซัดทอดถึงผู้ใด เต็งให้ปากคำว่า
เป็นเรื่องส่วนตัว ผมเองก็เคยถามเต็ง
ตอนที่ไปเยี่ยมที่เรือนจำ เต็งก็พูดเหมือนกัน
ว่า เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้นแม้แต่
ตัวผมเองก็ยังไม่ทราบเลยว่าเต็ง
ไปรับยาเสพติด มาจากที่ใด และ รับจากใคร
เพราะฉะนั้นขอให้เลิกสงสัยในตัวเต็ง


ส่วน นายนิมิตร กวีคำ ก็ควรจะตรวจสอบ
เรื่องราวต่างๆให้รอบคอบซะก่อน
ที่จะแจ้งความเต็ง ข้อหาหลอกลวง
เรื่องการเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล
เต็งเคยเปลี่ยนเพียงครั้งเดียวในปี2552
วันที่ 13พ.ค.2552 ณ สนง.เขตบึงกุ่ม
ชื่อตัวคือ ชญานิษฐ์
ชื่อสกุลคือ พิชิตสงคราม
คำนำหน้าชื่อไม่เคยใช้ยศร้อยตำรวจตรี
จากนั้นเปลี่ยนกลับเป็น ณัฐพล เริ่มฤกษ์
ในวันที่ 12ต.ค.2552 ณ สนง.เขตบึงกุ่ม
เอกสารมีทั้งหมด4ใบ อยู่กับผมผู้ซึ่งเป็นพ่อ
วันนี้ผมจะบอกให้เต็งไปแจ้งความ
กับ พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี
ที่ สน.ลาดพร้าว เพื่อดำเนินคดี
กับผู้ที่แอบอ้างใช้ชื่อ ชญานิษฐ์ พิชิตสงคราม
ไปทำธุรกรรม หรือ เอาไปเขียนหรือพิมพ์
ในเอกสารเวชระเบียนของโรงพยาบาล
หลายแห่ง เพื่อขอตรวจเรื่องเพศสภาพ
ส่งผลให้เต็งถูกสังคมกล่าวหาว่าเป็นกะเทย
ทั้งที่ในความเป็นจริง ในวัยเด็กของเต็ง
เต็งเป็นเด็กร่าเริงสดใส มีความใฝ่ฝัน
ที่สำคัญจิตใจเต็ง ไม่เคยมีความโลภ
ความต้องการของเต็งคือ กินอิ่ม นอนหลับ
เพียงแค่นี้